วันนี้เราไปเที่ยวพระราชวังฤดูร้อนกันค่ะ ตื่นเช้ามาก็เดินไปขึ้นรถที่สถานีรถ
บัสใกล้โรงแรมค่ะ เป็นการเดินทางที่รู้สึกว่ายาวนานมาก เพราะเราขึ้นรถ
กันตั้งแต่ต้นทาง กว่าจะถึงพระราชวังฤดูร้อนก็หลับไปหลายตื่นเลย เนื่อง
จากว่ามันอยู่เกือบสถานีสุดท้ายน่ะสิ… ว่าแต่ว่า มาถึงแล้วก็ถ่ายรูปเป็น
หลักฐานก่อนละกัน…แชะ!!!
วันที่ 27 ตุลาคม 2010 อากาศวันนี้แจ่มใสค่ะ มีเมฆนิดหน่อย
แล้วก็หนาวด้วยสิ…
คาดว่าวันนี้จะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 22,000 คนค่ะ
ด้านหลังคือภูเขาหมื่นปี (万寿山)
ภาพของพระนางซูสีไทเฮา
มีการแสดงให้ชมด้วยค่ะ
สะพาน 17 โค้ง และทะเลสาบคุนหมิง
ไปซื้อตั๋วขึ้นเรือมังกรข้ามฟากไปที่ภูเขาหมื่นปีกันค่ะ
ภายในเรือ
นี่แหละ ภูเขาหมื่นปี ข้างบนมีวัดด้วยล่ะ
ลงจากเรือข้ามฟากแล้ว ก็มาชมเรือหินอ่อน หรือเรียกอีกอย่างว่า
“เรือคนโง่” อันเลื่องชื่อค่ะ
ระเบียงทางเดินอันสวยงาม (长廊--ฉางหลาง)
ทางขึ้นเขาค่ะ ข้างบนมีวัดอยู่ด้วย และสามารถชมวิวได้
ทางขึ้นสูงมากๆเลย
บรรยากาศยามเย็น ณ พระราชวังฤดูร้อน
ภายในวัง มีตลาดน้ำด้วยล่ะ เรียกว่า ตลาดซูโจว
ปัจจุบันก็ยังมีการขายของที่ตลาดนี้ด้วย
อะแฮ่ม..ดูเด็กจีนแอ็คชั่นถ่ายรูปสิ
บรรยากาศของตลาดซูโจวยามเย็น
มาที่นี่แล้ว เหมือนเราได้ย้อนยุคไปในสมัยนั้นเลย…
ออกจากพระราชวังฤดูร้อน ก็ใกล้เวลาทีจะปิดทำการพอดี
(หลังจากที่เราเข้ามากันแต่เช้า…เดินคุ้มจริงๆ)
แล้วเราก็แวะซื้อมันเผาที่หน้าประตูวังค่ะ
ถ้ามาเมืองจีนก็อย่าลืมหาซื้อมันเผากินนะคะ อร่อยมากๆ เลย ขอย้ำ อิอิ
แล้วเราก็ไปสถานีรถไฟใต้ดินกันต่อ เพื่อเดินทางไปดูสนามกีฬารังนกค่ะ
การซื้อตั๋วรถไฟก็เหมือนเดิมค่ะ เราซื้อกับเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ
สแกนกระเป๋า แตะบัตรที่ทางเข้า แล้วก็รอรถค่ะ
ขึ้นจากสถานีรถไฟใต้ดินก็โผล่มาที่นี่เลยค่ะ สนามกีฬารังนก เย้ๆ
ได้มาเห็นของจริงแล้ว ดีใจจัง
ฟองน้ำ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสนามกีฬารังนก
ถ่ายกับตึกมังกรค่ะ ด้านซ้ายคือส่วนหัว แล้ว 2 ตึกที่เห็นคือลำตัวค่ะ
ถ้าจะมาแวะชมสนามกีฬารังนก แนะนำให้มาตอนกลางคืนค่ะ
เพราะเค้าจะเปิดไฟสวยงาม แล้วก็ได้เห็นแสงสีของตึกต่างๆ
บริเวณรอบๆ สนามกีฬาด้วย
ถ้าใครไม่พกกล้องมาล่ะก็ เค้าก็มีบริการถ่ายภาพ รอรับได้เลยค่ะ
เดินเล่น ถ่ายภาพ และชื่นชมกับบรรยากาศจนพอใจแล้ว
เราก็ใช้บริการรถไฟใต้ดินเช่นเดิม เพื่อเดินทางไปยัง หวังฝูจิ่ง
หลังจากครั้งก่อนได้เดินแค่แป๊ปเดียว
บรรยากาศของหวังฝูจิ่ง
มีอาหารและของที่ระลึกต่างๆ มากมายให้เลือกซื้อ
รวมถึงมีสินค้ายี่ห้อดังขายด้วย
ปล.ถ้าจะซื้อของที่ระลึกต่างๆ ก็อย่าลืมต่อรองราคาเท่าที่เราพอใจนะคะ
ถ้าเค้าไม่ลดก็ไม่ต้องเอา ให้เดินออกไปเลย
เพราะถ้าเค้าลดราคาให้ได้ ก็จะเรียกเรากลับมาเองค่ะ
อ้อ มาเดินหวังฝูจิ่ง เห็นเค้าขายซาลาเปาชื่อดังของเมืองเทียนจินด้วย
นั่นก็คือ ซาลาเปาหมาไม่สน อิอิ
ภาษาจีนเรียกว่า 狗不理包子 โก่วปู้หลี่เปาจึ (ชื่อนี้มีตำนานนะ)
ไอ้เราก็อยากลอง ทั้งที่ราคาก็แพงอยู่
ดูหน้าตาแล้ว ก็เหมือนซาลาเปาธรรมดาๆ นะ
แต่ที่นี่เค้าจะราดน้ำจิ้มให้ด้วย
ซื้อมากินถึงเข้าใจว่า ทำไมหมามันถึง… 555+
ไม่อร่อยเลยซักกะนิดเดียว ขี้เกียจถือ เลยโยนทิ้งอ่ะ
ซื้อซาลาเปาบ้านเรากินดีกว่าอีก อิอิ
(อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะคะ)
แต่ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นค่าประสบการณ์ละกัน
แต่ถ้าใครไปซื้อกินที่เทียนจินต้นตำรับก็อาจจะอร่อยก็ได้นะ
แล้วมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะคะ
--------------------------------------------
วันที่ 1 การเดินทางวันแรกของหนู วันที่ 2 ถึงเมืองจีนแล้วจ้า
วันที่ 3 เที่ยวกำแพงเมืองจีน
วันที่ 4 นางสนมที่เทียนถาน
วันที่ 5 มาโผล่ที่ต้าถง ชมถ้ำหยุนกัง-วัดแขวน
วันที่ 6 เข้าสู่ซีอาน ชมสุสานจิ๋นซี
วันที่ 7 เที่ยวลั่วหยาง ชมถ้ำหลงเหมิน,พิพิธภัณฑ์ และวัดม้าขาว
วันที่ 8 กลับปักกิ่ง โดนทหารไล่ที่พระราชวังต้องห้าม
วันที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจ ที่พระราชวังฤดูร้อน-สนามกีฬารังนก-หวังฝูจิ่ง
วันที่ 10 ช็อปปิ้งที่ตลาดรัสเซีย
วันที่ 11 บ๊ายบายปักกิ่ง
วันที่ 12 ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ
1 comment:
Very buetyful wow
Learn Chinese mandarin online free
Post a Comment