27 November 2010

วันที่ 2 เดินทางเข้าสู่เทียนจิน

     วันนี้เราก็จะเดินทางออกจากมาเลเซียไปเทียนจินกันแล้ว ดีใจจังเลย...  เดินทางต่อกันดีกว่านะ






     เช้าแล้ว ลากกระเป๋าขึ้นรถจากหน้าโรงแรม ไปสนามบินกันต่อ เตรียมตัวบินไปเมืองจีน เย้ๆๆๆ ตื่นเต้นมั่กๆ






 ระหว่างที่รอขึ้นเครื่อง เราก็ถ่ายรูปกันต่อ อิอิ..



เค้าเรียกหนูแล้วค่า จะไปล่ะนะ




 ทางเดินไปขึ้นเครื่อง






     ระหว่างทาง เราก็ยังคงแชะๆ กันต่อ แต่ลำนี้ไม่ใช่ของเรานะ ของเรายังต้องเดินต่อไปอีกไกลโข ประมาณ 1 กิโลเมตร ฮ่าๆ




เดินกันเข้าไปค่า..




     เย้ๆๆ เจอที่นั่งแล้ว นั่งติดกัน 3 คนเลย เครื่องบินลำใหญ่เชียว พอขึ้นเครื่องสักพัก ก็หลับกันเลย ตามตัวอย่างคนด้านข้าง และด้านหลัง อิอิ.. แต่ไอ้คนด้านหน้าเรานี่สิ สบายโคตรๆ เพราะว่าเป็นที่ว่างทั้ง 3 ที่ เค้าก็โผล่มาอย่างรวดเร็ว ตามสไตล์คนจีน นอนยาวสบายใจเฉิบจนถึงเทียนจิน เหอๆ..





เครื่องบินลำใหญ่จริงๆ นะ นั่งๆ นอนๆ ไป อีก 6 ชั่วโมงแน่ะ กว่าจะถึง

              เมนูอาหาร...น่ากินไหมคะ







     โฉมหน้าอาหารของเรา..บาร์บีคิวไก่..แจกอาหารตอน 10.00 น. แต่ว่าอยากกินข้าวมากกว่าอ่ะ ไม่ค่อยชอบเจ้าบาร์บีคิวสักเท่าไหร่ แต่ก็พอกินได้ ไก่ก็อร่อยดี แต่ไม่อยากกินมันฝรั่ง แครอท และถั่วต้มนี่เลยอ่า....แงๆ.. แต่ก็ต้องกินไป เพื่อความอยู่รอด เหอๆๆ


           กินอิ่มแล้วก็นั่งๆ นอนๆ ต่อไป อิอิ...


 




     ในที่สุดก็ถึงเมืองจีนแล้วค่า...เย้ๆๆ ถ่ายภาพเป็นหลักฐานซะหน่อย แชะๆๆ... แล้วก็ต้องไปผ่านด่านตม.อีกเช่นเคย คนเยอะมากๆ เจอคนไทยด้วย 1 คน แต่เค้าเป็นคนไทยที่อยู่ในมาเลย์อ่ะ มาเที่ยวปักกิ่งกับเพื่อนๆ ชาวมาเลย์ ทักทายนิดหน่อย แล้วเราก็จากกัน



                                                            ถ่ายกับโปสเตอร์ด้วย
   


     บรรยากาศสนามบินเทียนจิน เดินออกมาแบบงงๆ เล็กน้อย เพราะว่าขาออกจากสนามบินนี้ไม่ค่อยมีอะไร เดินเลี้ยวซ้ายไปก็เป็นทางออกแล้ว เลยงงว่า ออกจากสนามบินแล้วหรือนี่???



     ลูกทัวร์เดินมาสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น เหอๆ เนื่องจากว่าพอตั๊กกี้รับกระเป๋าเสร็จ เดินออกมา เจ้าหน้าที่ก็ให้สแกนกระเป๋าซะงั้น แต่ของพี่จิ๊กะพี่บอลลี่ ไม่เห็นจะให้ตรวจเลย เค้าก็เปิดกระเป๋าดู และตรวจอย่างค่อนข้างจริงจัง ไอ้เราก็งงๆ ว่าอะไรหว่า มีอะไรผิดปกติเนี่ยช้าน ตกลงว่า เค้าสแกนเจอหนังสือ ซึ่งมันคงเป็นรูปสี่เหลี่ยมทึบๆ เลยคิดว่าเราพกห่อยามาขายมั้ง 5555+ สุดท้ายก็ไม่มีอะไร ผ่านด่านมาได้จ้า


     พอเดินออกมานิดเดียวเท่านั้นแหละ ก็มีโชเฟอร์แท็กซี่ปรี่มาเลยทีเดียว มาถามว่าจะไปไหน ไปส่งเอามั้ย เราก็บอกไปว่า ไปสถานีรถไฟ เท่าไหร่ เค้าบอกว่า 80 หยวน เราก็เลยบอกไปว่า ไอหยา..แพงจัง ไม่ไปหรอก (จริงๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าราคาเท่าไหร่ แต่แพงไว้ก่อน) ก็เลยออกไปเรียกแท็กซี่ข้างนอก


     ปรากฏว่า ออกมาข้างนอก อากาศก็ค่อนข้างเย็น แล้วก็มีแมงอะไรไม่รู้บินว่อนเต็มไปหมด แถมเรียกแท็กซี่ก็ไม่เห็นมีใครรับเราเลย เอาละหว่า..เกิดอะไรขึ้นเนี่ย??? งงมากกกกกก แต่แล้วก็เรียกแท็กซี่ไปได้ 1 คัน ในราคา 60 หยวน จากที่เรียกคันอื่นๆ 80 หยวน เหอๆๆ... สันนิษฐานว่า พวกนี้คงเป็นแท็กซี่ผีชัวร์อ่ะ ไม่ยอมกดมิเตอร์กันเลย แต่จังหวะนั้นกำลังงงๆ กันอยู่ ต่อได้ 60 หยวนแล้ว ก็ไปละกัน

     บรรยากาศภายในรถแท็กซี่ มีลูกกรงกั้นไว้ เพื่อป้องกันความปลอดภัยของโชเฟอร์ และผู้โดยสารด้วย (มั้ง)

   

มีความสุขกันค่า เรียกแท็กซี่เข้าเมืองได้แล้ว...
                

 ลานสถานีรถไฟเทียนจิน

     
     ต่อแถวซื้อตั๋วรถไฟค่ะ ตามเป้าหมายแรกของเรา คือ ไปต้าถงกันก่อน ต่อด้วยซีอาน และลั่วหยาง ตามลำดับ หลังจากนั้น เราค่อยเข้ามาเที่ยวในปักกิ่งกัน แต่ผลปรากฏว่า...ไม่มีตั๋วซักกะใบนึง มีแต่ตั๋วเข้าปักกิ่งเท่านั้น หลังจากที่จำใจต้องไปปักกิ่งก่อนแล้ว ก็ซื้อตั๋วเลย แล้วก็เข้าปักกิ่งด้วยรถไฟเร็วรอบ 5 โมงครึ่งทันที..

     บรรยากาศภายในสถานีรถไฟ กว้างมากๆ ยังกะสนามบินเลย ก่อนเข้ามาถึงตรงนี้ได้ ก็ต้องผ่านการสแกนกระเป๋าทั้งหมดก่อนที่ประตูทางเข้าด้านล่าง ภาพนี้เป็นชั้นบน เป็นที่สำหรับมารอรถไฟแต่ละขบวนออกค่ะ




               นี่คือตั๋วรถไฟเข้าปักกิ่งค่ะ
 
ระหว่างรอ ก็ถ่ายรูปพลางๆ

นางแบบโชว์ตั๋วรถไฟไปปักกิ่งค่ะ

           ประตูทางลงไปยังรถไฟ มีหลายประตูมากๆ แล้วแต่ว่าจะไปขบวนไหน ของเราไปปักกิ่ง ต้องมาขึ้นรถไฟที่ประตูสุดท้ายเลย เดินไกลอีกละ

     ก่อนจะได้เวลารถไฟออก ก็จะมีเจ้าหน้าที่มายืนคุม แล้วให้เราเสียบตั๋วลงไปในเครื่อง คล้ายๆ กับเวลานั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสบ้านเราอ่ะ เสร็จแล้วก็ลากกระเป๋าลงบันไดเลื่อนไป


ใกล้จะได้เวลารถไฟออกแล้วค่ะ มายืนต่อแถวก่อน...คนเยอะมากๆ ค่ะ


     บรรยากาศภายในรถไฟหัวจรวด ไฮโซมาก ขอบอก ที่นั่งก็สบาย ปรับเอนได้ด้วย ข้างบนเป็นที่วางของ




ได้นั่งรถไฟหัวจรวดแล้วค่า....

     พวกเราโชคดีมากเลย ได้นั่งแถวหน้าสุด กระเป๋าใหญ่ก็เลยได้วางข้างหน้า พื้นที่กว้างขวาง วางกระเป๋าได้สบายเลย

หมายเลขที่นั่งของเรา

บนรถไฟมีน้ำแจกด้วย หยิบเอาเองได้เลยค่ะ

รถไฟหัวจรวด..(มีเงาชัตเตอร์ด้วยอ่ะ)

     รถไฟที่นี่ออกตรงเวลาเป๊ะๆ เลย แล้วก็ถึงตรงเวลาด้วย จากเทียนจินเข้าสู่ปักกิ่ง ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ดังนั้น อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา เราก็มาถึงสถานีรถไฟปักกิ่งใต้...

     มาถึงสถานีรถไฟปักกิ่งใต้แล้ว (อากาศหนาวสุดๆ ต้องขอเวลานอกใส่เสื้อหนาวเพิ่มเลยเนี่ย) เราก็ต้องขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินจากสถานีนี้ไปยังสถานีตงจื๋อเหมิน ดีที่สถานีรถไฟ กับสถานีรถไฟใต้ดินเชื่อมต่อกัน ก็เลยเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย แล้วก็ไปซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินที่หน้าเคาน์เตอร์ ใบละ 2 หยวน จะเปลี่ยนกี่สายก็ใช้ใบนี้ใบเดียวเท่านั้น ราคาถูกมากๆ เลย สงสัยประชากรเยอะอยู่แล้ว เลยไม่ต้องคิดแพงก็ได้

     แต่ถึงการเดินทางจะสะดวกสบาย แต่เราก็ต้องเปลี่ยนสายรถไฟถึง 2 รอบ ฟังดูก็นิดหน่อยหรอก แค่เปลี่ยนสาย 2 ครั้งเอง แต่ก็นั่นแหละนะ เรายังต้องแบกกระเป๋าอีกคนละกว่า 10 กิโล แถมไม่ได้มีใบใหญ่ใบเดียวซะหน่อย ยังมีเป้ และกระเป๋าสะพายอีก แถมเปลี่ยนสายทีนึง ก็ต้องหอบสัมภาระขึ้นๆ ลงๆ บันไดอีก แล้วระยะทางที่ต้องเดินเพื่อเปลี่ยนสายรถ ก็มิใช่ใกล้ๆ เลยนะเนี่ย โอ้มายก้อด...วันแรกที่ปักกิ่งของช้าน ทำไมช่างลำบากลำบนเช่นนี้... แต่พี่จิ๊ ลูกทัวร์คนเดียวของเรา ก็อึดสุดๆ เลย สามารถมากกกกก ยกกระเป๋าเอง ลากเอง แบกขึ้นบันไดเอง สุดๆ เก่งมาก ไม่มีบ่นซักคำ ให้ถ้วยไปเลย

     และในที่สุด เราก็มาถึงสถานีตงจื๋อเหมินจนได้ เย้ๆๆ เก่งมากๆ แล้วก็โผล่ขึ้นมาจากสถานีรถไฟใต้ดิน เจอแท็กซี่ และสามล้อเยอะมาก ก็เลยถามเค้าดูว่า ไปโรงแรมอี้ฟาเป่ยโหลวที่จองไว้เนี่ย ไปป่าว.. ตอนแรกก็กลัวว่าแท็กซี่จะไม่รู้จัก แต่ที่ไหนได้ รู้จักกันทั้งนั้น ดีใจเลยเรา อาลุงสามล้อก็บอกว่าไปมั้ยๆ นั่งสามล้อไป 2 คัน 40 หยวน แต่เราก็บอกว่า โอโห...ทำไมแพงจัง ไกลหรือไง ลุงก็บ่ายเบี่ยงไม่บอกว่าไกลไม่ไกล บอกแต่ว่า ไม่เกี่ยวกับไกลไม่ไกลหรอก แต่พวกเราก็ไม่ไป เพราะสงสารลุงด้วยที่ต้องปั่นสามล้อแบกพวกเราและสัมภาระอีกมากมาย แล้วก็สงสารตัวเองด้วยที่ต้องนั่งตากหน้ารับลมหนาว เลยบอกแกว่าไม่ไปๆ แกก็ตื๊อเหลือเกิน บอกว่างั้นลดให้เหลือ 30 หยวนก็ได้ อ้าว...ซะงั้น แต่เราก็ไม่ไปอยู่ดี

    ลากกระเป๋ามาอีก ก็เรียกแท็กซี่ แต่แท็กซี่ก็ดันคิดราคาเดียวกับลุงสามล้อ เราก็อ้าว...กำ.. ทำไมราคาเดียวกันฟะเนี่ย แล้วไม่กดมิเตอร์หรือไง แท็กซี่ไม่ยอมกดอ่ะ จะคิดราคาเหมาอย่างเดียว เดินไปเดินมาจนเจอแท็กซี่คันสุดท้ายกำลังจีบสาวอยู่ ก็ต่อรองจนได้ 30 หยวนเท่ากันกับสามล้อลุง (รู้สึกสงสารลุงมาก เหนื่อยก็เหนื่อย ได้ 30 หยวนเท่าแท็กซี่อ่ะ) แล้วเราก็มุ่งหน้าสู่โรงแรมอี้ฟาเป่ยโหลวกัน แท็กซี่ก็พาคุณแฟนเค้ามาด้วย แล้วก็มาส่งเราถึงหน้าโรงแรม...เย้ ดีใจมากมาย คริๆ (แต่แท็กซี่ที่ปักกิ่งไม่เห็นมีลูกกรงกั้นเหมือนที่เทียนจินเลย สงสัยที่นี่ปลอดภัยมากมั้ง)

     มาถึงโรงแรมแล้ว ก็บอกเจ้าหน้าที่ว่า จองไว้แล้ว แต่เรามาก่อนกำหนดอ่า.. เค้าก็ใจดี โทรไปถามคุณหลิว ผู้จัดการที่เราติดต่อไว้ให้ แล้วก็ได้ห้องพัก 3 เตียงมาในราคาคืนละ 158 หยวน จาก 228 หยวน ตามที่ตกลงไว้ เย้ๆๆ รีบเข้าห้องดีกว่า ตอนนี้เหนื่อยมากเลย








ห้องพักของเราค่า...เห็นแล้วอยากนอนจัง

     เก็บของเสร็จ นั่งพักสักประเดี๋ยว แล้วเราก็เริ่มออกหากิน อิอิ ก็เลยลงไปถามเจ้าหน้าที่ข้างล่างว่า แถวนี้มีอะไรกินบ้าง เค้าก็บอกว่าไม่ค่อยมีไรกินหรอก เหอๆๆๆ แต่มีร้านอาหารอยู่ร้านนึง ใกล้ๆ โรงแรม เป็ดปักกิ่งก็อร่อยใช้ได้นะ เราก็เลยโอเช ออกไปหากินกัน...


คนนี้น่าจะเป็นผจก.ร้านนะ (เดาเอา) เห็นเที่ยวมาเทคแคร์ลูกค้าอยู่

อาหารจานแรก ผัดถั่วกับเห็ด อร่อยดี เยอะด้วย อิอิ (ไม่ใช่ผัดสะตอเด้อค่ะ)


เป็ดปักกิ่งมาแว้วววว...เย้ๆๆ มาเฉือนกันจะจะข้างโต๊ะเลย


อยากรู้จังว่า คนเฉือนเป็ด น่ารักป่าว อิอิ


สภาพเป็ด หลังจากถูกเฉือนมาครึ่งตัว

น้องเป็ด และคณะ


     วิธีกินเป็ดปักกิ่งที่ถูกต้อง..อิอิ ต้องห่อแป้งก่อนนะคะ แล้วค่อยกิน...อร่อยมากมาย


โอ๊ะโอ...กินกันเกลี้ยงจริงๆ ไม่ค่อยหิวเลยนะเนี่ย

      เช็คบิลมื้อนี้ รู้สึกว่าจะประมาณ 100 หยวนพอดิบพอดีนะถ้าจำไม่ผิด หลังจากท้องอิ่มแล้ว เราก็เดินกลับโรงแรมไปพักผ่อน วางแผนการเดินทางวันพรุ่งนี้ต่อไป

 แม่ทัวร์ของเรา กำลังคร่ำเคร่งอยู่กับกองคู่มือ

     และแล้ว คืนนั้นหลังจากที่ลูกทัวร์หลับพักผ่อน ไกด์ทั้งสองก็ลงมาถามวิธีการเดินทางไปกำแพงเมืองจีน ด่านปาต๋าหลิ่งในวันพรุ่งนี้ที่หน้าเคาน์เตอร์ เจ้าหน้าที่ก็ใจดีมากๆ เลย ช่วยกันบอกทางใหญ่ แล้วก็จดให้ด้วยว่าไปยังไง ใจดีมากๆ แถมยังบอกว่ามีอะไรก็ลงมาหาได้เลย ไม่ต้องเกรงใจนะ เราก็เลยถามเรื่องฝากกระเป๋าเดินทางด้วยเลย เนื่องจากจะนอนโรงแรม 2 คืน แล้วเดินทางต่อไปเมืองอื่น เลยจะฝากกระเป๋าไว้ที่นี่ก่อนได้ป่าว เค้าก็บอกว่าได้สิ จะกลับวันมาไหนก็บอกแล้วกัน เย้ๆๆๆ ดีใจๆ ชนะเลิศจริงๆ อี้ฟาเป่ยโหลว ประทับใจมากกกกกกกกกก นอนหลับฝันดีเลย...

*หมายเหตุ
โรงแรมที่เข้าพัก จองตามพี่วุฒิกับพี่เคทเลย www.wutkate.com 
คำศัพท์สำหรับวันนี้

ปักกิ่ง  北京 (běi jīng) เป่ย จิง

เทียนจิน 天津 (tiān jīn) เทียน จิน

สนามบิน 飞机场 (fēi jī chǎng) เฟย จี ฉ่าง
      หรือ 机场(jī chǎng) จี ฉ่าง ก็ได้

สนามบินปักกิ่ง 北京飞机场 (běi jīng fēi jī chǎng)

สนามบินเทียนจิน  天津飞机场 (tiān jīn fēi jī chǎng)

สถานีรถไฟ  火车站 (huǒ chē zhàn) ฮว่อ เชอ จ้าน

สถานีรถไฟใต้ดิน  地铁站 (dì tiě zhàn) ตี้ เถี่ย จ้าน

แท็กซี่  出租车 (chū zū chē) ชู จู เชอ


เรียกแท็กซี่/นั่งแท็กซี่  打的
(dǎ dī) ต่า ตี     

ตั๋วรถไฟ  火车票 (huǒ chē piào) ฮว่อ เชอ เพี่ยว

รถไฟใต้ดิน  地铁 (dì tiě) ตี้ เถี่ย

โรงแรม  宾馆 (bīn guǎn) ปิน ก่วน

เป็ดปักกิ่ง  北京烤鸭 (běi jīng kǎo yā) เป่ย จิง ข่าว ยา

เช็คบิล  买单 (mǎi dān) หม่าย ตัน



--------------------------------------------
วันที่ 1 การเดินทางวันแรกของหนู
วันที่ 2 ถึงเมืองจีนแล้วจ้า
วันที่ 3 เที่ยวกำแพงเมืองจีน
วันที่ 4 นางสนมที่เทียนถาน
วันที่ 5 มาโผล่ที่ต้าถง ชมถ้ำหยุนกัง-วัดแขวน
วันที่ 6 เข้าสู่ซีอาน ชมสุสานจิ๋นซี
วันที่ 7 เที่ยวลั่วหยาง ชมถ้ำหลงเหมิน,พิพิธภัณฑ์ และวัดม้าขาว
วันที่ 8 กลับปักกิ่ง โดนทหารไล่ที่พระราชวังต้องห้าม
วันที่ 9 พักผ่อนหย่อนใจ ที่พระราชวังฤดูร้อน-สนามกีฬารังนก-หวังฝูจิ่ง
วันที่ 10 ช็อปปิ้งที่ตลาดรัสเซีย
วันที่ 11 บ๊ายบายปักกิ่ง
วันที่ 12 ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ

No comments: